“มาโน” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เชื่อ “ฟีฟ่า เดย์” หนนี้ จะเป็นเวทีที่ดีของ “ทีมชาติไทย” สายเลือดใหม่ ในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์
วันที่ 15 มี.ค. 66 หลังจากทีมชาติไทย ได้ประกาศชื่อ 25 นักเตะ ชุดทำการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ กับซีเรีย และยูเออี โดยมีนักเตะดาวรุ่งหลายราย รวมถึง นิโคลัส มิคเคลสัน และชานุกูล ก๋ารินทร์ ที่ได้โอกาส
ล่าสุด มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ก็ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า แข้งเลือดใหม่ทีมชาติไทย จะได้ประสบการณ์จากฟีฟ่า เดย์รอบนี้ โดยระบุว่า “แน่นอนว่าการประกาศรายชื่อครั้งนี้นั้น อาจจะสร้างความถูกใจและไม่ถูกใจให้กับแฟนบอล แต่แน่นอนว่า การตัดสินใจทุกอย่าง เราพยายามหาจุดลงตัวและพยายามหาทีมที่ดีที่สุดเพื่อทีมชาติไทยเสมอ” มาโน กล่าวเริ่ม
“เราพยายามเลือกนักเตะที่ดีที่สุดเสมอ และที่ผ่านมาเราก็ได้มีการปรึกษากับสโมสร เกี่ยวกับสภาพร่างกายของนักกีฬา และเป็นเหตุผลที่บางคนอาจจะไม่ได้มีชื่อติดในรายการนี้ เพราะเราไม่ต้องการเอานักเตะที่ไม่สมบูรณ์ หรือเอาไปแล้วใช้งานแล้วเขาจะได้รับบาดเจ็บซ้ำกลับไปที่สโมสร”
“ส่วนเรื่องการใช้งาน แน่นอนว่าผมเองก็อยากจะให้โอกาสทุกคนลงสนามในสองเกมนี้ แต่เราก็ต้องดูจากการซ้อมของทุกคนด้วย และนั่นคือสิ่งที่นักเตะทุกคนต้องพยายามพิสูจน์และแสดงมันออกมา ว่าเขาคู่ควรกับโอกาส หากเราไปการันตีว่าจะใช้ทุกคนแล้วมันอาจจะทำให้นักเตะรีแลกซ์เพราะเป้าหมายของเรานอกจากการจะให้โอกาสทุกคนแล้ว เราเองก็ต้องการเก็บชัยชนะในฟุตบอลอุ่นเครื่องสองเกมนี้ เพื่อขยับอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้ง”
“สำหรับทีมชุดนี้ ก็ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัว ที่มีนักเตะประสบการณ์สูง และดาวรุ่ง ซึ่งในตำแหน่งกองหน้า ที่เราอาจจะไม่มีธีรศิลป์ แดงดา แต่ก็เป็นบทพิสูจน์ของคนที่เหลือ ในการพยายามแสดงให้เห็นว่าพวกเขาคืออนาคตของทีมชาติไทย นอกจากนี้ก็ยังมีนักเตะประสบการณ์สูงอย่าง ชนาธิป หรือ สุภโชค จากญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาช่วยเหลืออีกด้วย”
“ในส่วนของนักเตะที่ติดรายการนี้ครั้งแรก อย่าง นิโคลัส มิคเคลสัน เราก็มีการติดตามผลงานเขามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อน และมีโอกาสเรียกตัวเขามาหลายครั้งแต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เราพลาดโอกาสไป เพราะหลายคนก็ประทับใจฟอร์มของเขาตอนที่เล่นให้ทีมชาติไทย U23 อย่างมาก และตอนนี้เขาก็ฟิตสมบูรณ์แล้ว และก็ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองอีกขั้นกับทีมชาติชุดใหญ่ ขณะที่ ชานุกูล ก๋ารินทร์ เขาก็ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องกับ โปลิศ เทโร เอฟซี และก็ทำผลงานได้ดี และมีส่วนกับผลงานที่ดีของทีมในปีนี้”
“สุดท้ายก็ฝากแฟนบอลเป็นกำลังใจให้นักกีฬา สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ในการทำการแข่งขันครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเราเองก็จะพยายามทำเต็มที่เพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จตามที่แฟนบอลตั้งเป้าหมายไว้”
สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่มีดังนี้
นักแรก คืนวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 01.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ซีเรีย พบ ทีมชาติไทย ที่ ชะบ๊าบ อัล อาห์ลี สเตเดียม, ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี และ AIS Play
นัดที่สอง คืนวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 01.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ ทีมชาติไทย ที่อัล นาห์ยาน สเตเดียม, กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี และ AIS Play
Source: thairath.co.th